“สะเดา” กับข้อเสีย โทษ ผลกระทบ ผลข้างเคียงแบบไม่คาดคิดมาก่อน

สะเดาเป็นพืชสมุนไพรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากสามารถนำทุกส่วนของต้นมาใช้ประโยชน์ได้ ทั้งใบ ดอก เมล็ด ผล ราก และเปลือก มีการเปิดเผยการใช้ประโยชน์ทางยาของต้นไม้ชนิดนี้ในอดีต โดยดอกสะเดาถูกนำมาใช้รักษาโรคทางเดินน้ำดี ใบสะเดาใช้รักษาแผลเปื่อย และเปลือกสะเดาใช้รักษาโรคสมอง

สะเดา เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย สามารถนำมาใช้รักษาและป้องกันโรคได้หลากหลายชนิด โดยมีคุณสมบัติเด่นมากมายทั้งดีท็อกซ์ และบำรุงเลือด รักษาโรคผิวหนัง เช่นกลาก เกลื้อน ต้านเชื้อยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมทั้งยังบรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นการผลิตน้ำดี

แม้สะเดาจะมีประโยชน์มากมาย แต่สะเดาก็มีผลกระทบเช่นกัน และต่อไปนี้คือผลกระทบของสะเดา

แม้ว่าผลิตภัณฑ์จากสะเดาจะมาจากธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยสำหรับการใช้งานในคนทุกกรณี ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์จากสะเดา สารสกัดจากเมล็ดสะเดามีกรดไขมันหลายชนิดและสารขมประมาณ 2% ซึ่งถือว่าเป็นสารพิษ ปริมาณของสารขมเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ และอาจได้รับอิทธิพลจากวิธีการสกัดและการเก็บรักษา

หลีกเลี่ยงการใช้สะเดาในบางกลุ่มบุคคล

ผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สะเดา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

แม้ว่าการใช้สะเดาทาภายนอกดูเหมือนจะปลอดภัยหากเจือจางด้วยส่วนผสมอื่นๆ แต่ไม่แนะนำให้ทาโดยตรงบนผิวหนัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคือง

พบว่าสะเดามีผลคุมกำเนิดในระยะยาวในผู้ชายหลังจากได้รับยาเพียงครั้งเดียว เนื่องจากมีผลยับยั้งการสร้างตัวอสุจิ และมีการวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยจำกัด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สะเดาหากกำลังวางแผนจะมีบุตร

ไม่แนะนำให้ทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรใช้สะเดา เนื่องจากข้อมูลด้านความปลอดภัยยังไม่ครบถ้วนและมีข้อจำกัดในการวิจัย