25 พ.ย. 2567 สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวของชายชาวจีนรายหนึ่ง ชื่อ จ้าวเหล่ย วัย 30 ปี เขาไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มแอลกอฮออล์ แต่ก่อนหน้านี้ 6 เดือนเขามีอาการปวดท้องรุนแรฝและเรื้อรัง จากประวัติผู้ป่วยทีมแพทย์พบว่าเขามีภาวะไขมันพอกตับ ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง และนิ่วในท่อตับอ่อน ล่าสุดแพทย์วินิจฉัยพบว่าเขาเป็นมะเร็งตับอ่อน
โดยแพทย์ระบุว่า ตับอ่อนเป็นหนึ่งในอวัยวะย่อยอาหารหลักของร่างกายมนุษย์ สารคัดหลั่งจากตับอ่อนประกอบด้วยเอนไซม์หลายชนิดที่สามารถย่อยโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตได้ แต่การกินมากเกินไปจะกระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำตับอ่อนออกมาจำนวนมาก ทำให้เกิดแรงกดดันในท่อตับอ่อนเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันและเป็นอันตรายต่อร่างกาย การอักเสบของเนื้อเยื่อรอบข้างในระยะยาว สามารถกระตุ้นตับอ่อนอักเสบซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งได้
3 สิ่งที่มากเกินไป ก่อให้เกิดมะเร็งเร็วกว่าการสูบบุหรี่
- ความเครียดที่มากเกินไป
- กินน้ำตาลและไขมันมากเกินไป
- ไม่ตรวจสุขภาพ และชะล่าใจเมื่อเกิดความผิดปกติกับร่างกาย
มะเร็งตับอ่อนถือเป็นมะเร็งที่ตรวจพบได้ยากที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากอาการเริ่มแรกมักไม่ชัดเจน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการตรวจคัดกรองเป็นประจำสามารถตรวจพบมะเร็งได้ในระยะเริ่มแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งหรือมีปัจจัยเสี่ยงสูงต้องให้ความใส่ใจสุขภาพมากขึ้น