นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายโครงการรวมประมาณ 14.55 ล้านคน ว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง ได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบาง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน และผู้พิการ รอบที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 67 ให้กับผู้ที่มีสิทธิจำนวน 73,967 คน โดยพบว่ายังมีจำนวน 43,699 คน ที่ทำการโอนไม่สำเร็จ สาเหตุมาจากดังนี้
คนพิการ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 4,300 ราย
บัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว
บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด
เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้องรวมกัน 169 ราย
กรณีคนพิการที่ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการมาก่อนทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับเงิน ซึ่งกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงินให้คนพิการกลุ่มนี้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนแทน แต่พบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ไม่สำเร็จอีกเป็นจำนวน 4,131 ราย
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 39,399 ราย
ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน
บัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว
บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด
ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร
เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง
กรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการด้วยแต่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุและยังไม่ได้ต่ออายุบัตรภายในวันที่ 31 ส.ค. 67 ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับการจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามสิทธิของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เมื่อพบว่าปลายทาง ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ
ดังนั้น ขอให้ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 43,699 ราย รีบดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไขบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีปัญหาข้างต้นโดยเร็ว เนื่องจากจะมีการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนพิการอีกจำนวน 31,634 ราย ที่กรมบัญชีกลางยังไม่สามารถสั่งจ่ายเงินให้ได้ เนื่องจากจะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องเสียก่อนตามเงื่อนไขของโครงการฯ
ทั้งนี้ การทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการต้องดำเนินการภายในวันที่ 3 ธ.ค. 67 ส่วนการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนหรือแก้ไขบัญชีต้องดำเนินการภายในวันที่ 16 ธ.ค. 67 ซึ่งจะได้รับการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำ Retry ครั้งที่ 3 (ครั้งสุดท้าย) ในวันที่ 19 ธ.ค. 67
เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั้งสิ้น 14,437,625 ราย ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 144,376.25 ล้านบาท