บุกรวบนายประสิทธิ์ คาบริษัทดัง

2 ก.ค. 2567 เวลา 10:54 น.

วันที่ 2 ก.ค.2567 พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.บรรพตพิสัย พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิชัย ทองงามขำ รอง ผกก.สส.สภ.บรรพตพิสัย และ พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ วัฒนสุข สว.สส.สภ.บรรพตพิสัย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัว นายประสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล)

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาฐานว่า มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางตาหงาย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ก่อนจะควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย

จากการตรวจค้นพบเหล็กรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตเป็นอาวุธปืน และมีเหล็กลำกล้องปืน เครื่องกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ 131 นัด รวมถึงสว่านแท่น พร้อมอุปกรณ์ตัดเหล็ก ระเบิด C4 น้ำหนักประมาณครึ่งปอนด์ จำนวน 1 แท่ง พร้อมชุดจุดระเบิดมาตรฐาน M5 (กบกระโดด) และส่วนเพิ่มดินขับ 2 แท่ง ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดีทั้งหมด

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ในพื้นที่ อ.บรรพตพิสัย มีแหล่งรับจ้างผลิตอาวุธปืนส่งขายให้กับคนในพื้นที่ และผ่านทางการสั่งซื้อก่อนจะมีการจัดส่งพัสดุไปยังที่หมาย

จึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า ผู้ที่ลักลอบผลิตออาวุธปืนเถื่อนขายนั้น คือ นายประสิทธิ์ ซึ่งใช้บ้านเช่าในพื้นที่ ต.ท่างิ้ว ในการผลิตอาวุธปืน จึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อก่อนจะจับกุม จากนั้นจึงควบคุมตัวขยายผลไปตรวจสอบยังบ้านพัก จนสามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

จากการสอบปากคำ นายประสิทธิ์ ให้การว่า เรียนจบวิศวะ ระดับปริญญาตรี สาขาช่างกล จนมีความรู้ความสามารถในการผลิตและประกอบอาวุธปืน โดยเริ่มแรกได้รับจ้างซ่อมอาวุธปืนให้กับชาวไร่ชาวนาทั่วไป

นายประสิทธิ์ ให้การต่อว่า ก่อนจะมีการรับจ้างผลิตอาวุธปืนขนาด .38 บรรจุได้ 4 นัด ส่งขายให้กับผู้ที่สั่งซื้อผ่านทางเพจออนไลน์ ในราคากระบอกละ 3,000-4,000 บาท มาเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว

นายประสิทธิ์ ให้การอีกว่า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ส่งปืนมาให้ซ่อมมากกว่ารับจ้างให้ผลิตปืนทั้งกระบอก ส่วนการที่มีระเบิด C4 ไว้ในความครอบครองนั้น เนื่องจากมีคนใน จ.สระแก้ว มาเสนอขายให้ ตนจึงรับซื้อมาเก็บไว้ เพื่อขายทำกำไรต่อให้กับกลุ่มชาวกระเหรี่ยง และชาวเมียนมาอีกทอด

อย่างไรก็ตาม ในคำให้การของนายประสิทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก จึงยังต้องมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป