กองทัพบกเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอประชาคมระหว่างประเทศ หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างปฏิบัติภารกิจเสริมความมั่นคง บริเวณเขาสัตตะโสม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียอวัยวะ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง


พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานเหตุการณ์กรณีชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดจากกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 ประสบอุบัติเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ขณะปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงในพื้นที่เขาสัตตะโสม ส่งผลให้ จ่าสิบตรี สุจินต์ จิตกรียาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาซ้าย และมีบาดแผลบริเวณตาซ้าย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลสุรินทร์ โดยขณะนี้อาการอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดจนสูญเสียอวัยวะรายที่ 11 จากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
โฆษกกองทัพบกระบุว่า จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ายังคงมีทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาติดตั้งไว้อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งฝ่ายไทยเข้าควบคุมก่อนมีการประกาศหยุดยิง ส่งผลให้การเก็บกู้เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด โดยกองทัพบกจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อใช้ในการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ พร้อมรายงานไปยังASEAN Observer Team เพื่อให้มีการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกรอบข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพบกยืนยันว่า หลักฐานการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ตรวจพบ บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา อย่างร้ายแรง ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมสากล และเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกไม่อาจยอมรับได้
