สาว ม.ปลาย สุดทน! น้องชาย ม.ต้น งอแงขอ “อาบน้ำด้วย” แม่ดันเข้าข้าง ต้องให้พ่อมาจบเรื่อง
ดราม่าในครอบครัวเมื่อลูกสาวเริ่มโตเป็นสาว แต่สมาชิกในบ้านกลับไม่เข้าใจเรื่องความเป็นส่วนตัว สาว ม.ปลาย ระบายความอัดอั้น น้องชายขึ้น ม.ต้น ยังขออาบน้ำด้วย พอปฏิเสธแม่กลับเข้าข้างน้อง จนพ่อต้องออกโรงเคลียร์
เรื่องราวความเป็นส่วนตัวระหว่างพี่น้องต่างเพศ กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ เมื่อสาวไต้หวันรายหนึ่งได้โพสต์ระบายความในใจผ่านเว็บไซต์ Dcard เล่าปัญหาในครอบครัวที่ทำให้เธอลำบากใจอย่างหนัก เกี่ยวกับพฤติกรรมของน้องชายและทัศนคติของผู้เป็นแม่
พี่สาวเริ่มโต น้องชายไม่เข้าใจ
เจ้าของโพสต์เล่าว่า ตั้งแต่เด็กเธอมักจะอาบน้ำพร้อมกับน้องชายเป็นประจำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะได้พูดคุยเล่นกัน แต่ปัจจุบันเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย (ม.ปลาย) แล้ว ส่วนน้องชายก็ขึ้นชั้นมัธยมต้น (ม.ต้น) สรีระร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง เธอจึงรู้สึกเขินอายและต้องการความเป็นส่วนตัว
เมื่อเธอบอกน้องชายว่า “ขอแยกกันอาบ” น้องชายกลับไม่พอใจและโต้แย้งแบบเด็กๆ ว่า “ผมเคยเห็นของพี่มาตั้งกี่ครั้งแล้ว จะอายทำไม”
แม่เข้าข้างน้อง อ้าง “แค่อาบน้ำเอง”
สถานการณ์แย่ลงเมื่อน้องชายวิ่งไปฟ้องแม่ โดยกุเรื่องโกหกว่า “พี่สาวมีแฟน” เลยไม่อยากอาบน้ำกับเขาแล้ว ทำให้เธอถูกแม่ดุชุดใหญ่ แม้สุดท้ายจะเคลียร์ความเข้าใจผิดเรื่องแฟนได้ แต่ทัศนคติของแม่กลับทำให้เธออึ้งยิ่งกว่า
แม่ของเธอกลับมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และพูดแกมบังคับว่า “งั้นก็ไปอาบกับน้องเถอะ จะได้ไม่มีปัญหา” คำพูดนี้ทำให้เธออึดอัดใจมาก เพราะไม่รู้จะอธิบายให้แม่และน้องชายเข้าใจเรื่องขอบเขตทางเพศได้อย่างไร
ชาวเน็ตส่ายหน้า “แบบนี้ไม่ปกติ”
หลังจากกระทู้นี้ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยตำหนิทัศนคติของครอบครัว เช่น:
“มันแปลกจริงๆ ไม่ใช่เรื่องปกติที่เด็กสาว ม.ปลาย จะอาบน้ำกับน้องชาย ม.ต้น”
“ครอบครัวของคุณไม่เคารพคุณเลย”
“อย่าอายที่จะปฏิเสธ ถ้าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ อย่าฝืนใจตัวเอง!”
ล่าสุด เจ้าของโพสต์ได้มาอัปเดตบทสรุปว่า เธอตัดสินใจปฏิเสธน้องชายอย่างเด็ดขาด แต่ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวจึงเผลอตะคอกใส่เสียงดัง ทำให้น้องชายที่แทบไม่เคยโดนพี่ดุถึงกับร้องไห้เสียใจ
เสียงเอะอะทำให้พ่อและแม่รีบเข้ามาดูสถานการณ์ ครั้งนี้แม่พยายามประนีประนอมโดยบอกว่า “งั้นก็แยกกันอาบ อย่าตะคอกใส่น้อง” แต่คนที่เด็ดขาดที่สุดคือ “พ่อ”
เมื่อพ่อทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็หันไปดุลูกชายทันทีด้วยประโยคที่ทำให้ได้สติว่า “โตป่านนี้แล้ว จะไปอาบน้ำกับพี่สาวมันน่าอาย!” ก่อนจะช่วยอธิบายเหตุผลให้ลูกชายเข้าใจ
สุดท้าย แม้น้องชายจะยังดูซึมๆ และเสียใจอยู่บ้าง แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ที่ในที่สุดปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไข และได้พื้นที่ส่วนตัวของเธอกลับคืนมาเสียที
