วันที่ 20 ก.ค.2567 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยกรณีมีนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของเชียงใหม่ ถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงินไป 4 ล้านกว่าบาท ว่า โดยพื้นที่ภาค 5 พวกแก็งคอเซ็นเตอร์หลอก วันหนึ่งก็จะมีไม่ต่ำกว่า 2-3 ราย ที่เกิน 1 ล้านบาท
และก็เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอด ก็อยากฝากเตือนพีน้องประชาชนอย่าไปหลงเชื่ออย่าไปรับสายเบอร์คนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก โดยเฉพาะที่หลอกว่าบัญชีเราไปพัวพันคดีสำคัญ ยาเสพติด คดีฟอกเงิน ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีการโทรศัพท์ไป หรือวิดีโอคอลหา
ตัวอย่างคดีสำคัญที่เกิดขึ้นล่าสุดที่เชียงใหม่ ที่ทางตำรวจได้รับแจ้งเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็เป็น้องนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังของเชียงใหม่ น้องเขาโดนแก็งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามา อ้างว่าบัญชีของน้องไปพัวพันกับการกระทำความผิด มีการบอกให้กับน้องนักศึกษาว่า อย่าไปบอกใคร และให้ส่งบัญชีมาตรวจสอบ แก็งคอลเซ็นเตอร์ได้สอบถามน้องนักศึกษาว่ามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ หรือมีเงินฝากมีทรัพย์สินอื่นหรือไม่
รายนี้บังคับให้น้องซึ่งเป็นนักศึกษาโทรศัพท์ผ่านไลน์ วิดีโอลคอลตลอดเวลา ห้ามปิดเครื่อง บังเอิญวันนั้นก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง สัญญาณอินเตอร์เน็ตดับไป สัญญาณก็ตัด แต่ด้วยความที่น้องเขากลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าไปพัวพันเกี่ยวกัยเรื่องการทำธุรกิจผิดกฏหมาย น้องเขาก็ได้โทรศัพท์กลับ พวกแก็งพวกนี้ก็เลยหลอกต่อได้อีก
วันนั้นหากน้องนักศึกษา ฉุกคิดขึ้นมานิดหนึ่งแล้วโทรศัพท์กลับไปหาผู้ปกครอง หรือหาตำรวจหรือเพื่อนฝูง ก็จะได้รับคำปรึกษา อุบายของพวกมิจฉาชีพ คือไม่ให้ตัดสัญญาณ พยายามพูดหลอกล่อ จนบรรลุ สุดท้ายน้องเขาสูญเงินไป 4 ล้านกว่าบาท และได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ผ่าน 1441
และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป ตอนนี้แก็งคอเซ็นเตอร์มีจำนวนมากหลายร้อยแก๊งทุกด้าน ด้านตะวันตก,ทิศเหนือ,อีสาน,ใต้ คือมีเป็นร้อยๆแก๊ง บางแห่งเช่าตึกคนละช้้น คนละแก๊ง แก๊งพวกนี้ ตอนนี้ไม่ใช้เอไอแล้ว ใช้คนนี่แหละ ก็ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตรวจสอบให้ดีๆ