จากการตรวจสอบเบื้องต้น ศาลาวัดถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง ที่สำคัญ ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ชาวบ้าน คณะกรรมการวัด ได้ใช้ศาลาการเปรียญวัดแห่งนี้ เป็นที่ตั้งองค์กฐินสามัคคีของทางวัด ที่กำหนดจะมีการทอดถวายนในวันอาทิตย์ ที่ 19 ตุลาคม 2568 ต้นเงินของทางชาวบ้านที่ตั้งกองกฐิน 1 แสนกว่าบาท รวมทั้งอัฐบริขารถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด มูลค่ากองกฐิน กว่า 2 แสนบาท รวมทั้งศาลาวัด ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง
แต่ที่น่าอัศจรรย์ คือ พระพุทธรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ตั้งรวมอยู่ในกองกฐิน กลับไม่ถูกไฟไหม้เลยแม้แต่น้อย ทางคณะกรรมการวัด ได้ร่วมกันออกมาตรวจสถานที่ ประชุมหารือ ในการที่จะดำเนินการทอดกฐินต่อหรือไม่ สรุปได้ว่า ตกลงจะยืนยันในการทอดถวายกฐินเช่นเดิม แต่เลื่อนระยะเวลาออกไปเป็นวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 แทนกำหนดเดิม 19 ตุลาคม 2568
พระครูจันทธรรมนิวิฐ เจ้าอาวาสวัดบ้านทุ่ม กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุ อาตมาร่วมกับพระเณร ได้ทำวัตรอยู่ภายในโบสถ์ เวลาช่วง 04.00 – 05.00 น. ได้ยินเสียงไฟฟ้าลัดวงจร ตนก็วิ่งออกมาดู วิ่งไปเอาถังดับเพลิงแดงมา แต่ไฟลุกโหมไวมาก ไหม้อย่างแรง พระเณร จึงพากันล่าถอยออกมา ตีระฆัง ร้องบอกชาวบ้านออกมาช่วย และโทรแจ้ง 191 ขอความช่วยรถดับเพลิง
โดยไฟได้ไหม้จากข้างบนหลังคา ตรงที่จุดสะพานไฟ ในกองกฐินก็มีต้นเงินสด ที่มีเงินสดมากกว่า 1 แสนบาท และอัฐบริขาร รวมๆ แล้วก็น่าจะมีมูลค่ากว่า 2 แสนบาท ส่วนการทอดกฐิน อาตมาว่าจะยกเลิก แต่ชาวบ้านมาประชุมกันวันนี้ ก็ไม่อยากให้ยกเลิก แต่ก็เพียงให้เลื่อนไปก่อนเป็นไปทอดถวายกันในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เพื่อที่จะได้นำเงินมาช่วยสร้างศาลาหลังใหม่ด้วย ก็เรียนเชิญ ญาติโยม ผู้ที่มีจิตศรัทธรา มาร่วมทอดถวายนกฐินสามัคคี สร้างสร้างศาลาวัดหลังใหม่ ที่ไฟไหม้ด้วยกัน