ครูสาวจีนวัย 28 ปี ป่วยมะเร็งตับ หลังชอบกิน “ฟักทอง” ตัดส่วนขึ้นราออกเพราะคิดว่าปลอดภัย
หญิงสาวชาวจีนวัย 28 ปี จากมณฑลเจ้อเจียง ใช้ชีวิตอย่างมีวินัยและใส่ใจสุขภาพ เธอทำอาหารกินเองทุกวันและมักเลือกเมนู ฟักทอง เพราะเชื่อว่าช่วยลดน้ำหนักและดีต่อสุขภาพ แต่ไม่นานกลับเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ และน้ำหนักลดลงรวดเร็ว จนสุดท้ายถูกวินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งตับระยะเริ่มต้น
ชีวิตสุขภาพดีแต่จบลงด้วยโรคร้าย
แม้จะมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ แต่เมื่อเธอเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียและน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว จึงเข้ารับการตรวจร่างกาย แพทย์พบว่ามีก้อนเนื้อในตับขนาดราว 5 เซนติเมตร และค่าการทำงานของตับสูงผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของมะเร็งตับ
สาเหตุจาก “ฟักทองขึ้นรา” ที่คิดว่ากินได้
หลังสอบถามพฤติกรรมการกิน พบว่าเธอมักซื้อฟักทองราคาถูกจากตลาด หรือรับจากญาติในชนบทเป็นจำนวนมาก แล้วเก็บไว้นานจนบางลูกเริ่มขึ้นรา ก่อนนำมาปรุงอาหารโดยเพียงตัดส่วนที่เสียออก เพราะเข้าใจว่า “ส่วนที่เหลือยังปลอดภัย”
แต่แพทย์ยืนยันว่า ความเข้าใจนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากฟักทองหรืออาหารที่ขึ้นราเพียงเล็กน้อย อาจปนเปื้อน อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อรา มีฤทธิ์ก่อมะเร็งตับรุนแรงที่สุดในธรรมชาติ แม้ผ่านความร้อนสูงก็ไม่สลายตัว และสามารถสะสมในร่างกายจนทำลายเซลล์ตับอย่างถาวร
แพทย์เตือน พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำร้ายตับในครัว
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า นอกจากอาหารขึ้นราแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งในครัวที่อาจค่อย ๆ ทำลายตับโดยไม่รู้ตัว เช่น
- อาหารค้างคืน ที่อาจเกิดสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
- ภาชนะไม้หรือโลหะเก่าที่ขึ้นรา หรือเคลือบหลุดลอก ซึ่งอาจมีโลหะหนักสะสม
- อุปกรณ์พลาสติกราคาถูก ที่ปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์และ DEHP เมื่อโดนความร้อนสูง
บทเรียนเตือนใจจากครูสาว
กรณีของครูสาวรายนี้เป็นบทเรียนสำคัญให้ทุกคนระวัง อาหารที่ดู “แค่ขึ้นรานิดเดียว” ไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด เพราะเพียงจุดเล็ก ๆ นั้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคร้ายที่คร่าชีวิตได้โดยไม่รู้ตัว