หลังจากที่ตั้งใจทำคลิปวิดีโอเพื่ออยากแชร์ให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับ เอ๋ พรทิพย์ ป่วยเป็นมะเร็งปอด ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในทันทีที่ตรวจพบ โดยมีสามีสุดที่รัก ป๋อ ณัฐวุฒิ และลูกๆ ให้กำลังอยู่ไม่หายไปไหน
แต่กลับมีกระแสดราม่าต่างๆ เข้ามา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องข่าวลือที่บอกทำนองว่า เอ๋ พรทิพย์ เป็นมะเร็งมานาน 2 ปีแล้ว ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ หรือว่าหิวแสง?
ล่าสุด ป๋อ ณัฐวุฒิ ได้ถือโอกาสร่ายยาวเรื่องราวทั้งหมดผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า…
“ขอชี้แจงเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ
– ข่าวที่บอกว่าเป็นมะเร็งมา 2 ปี… ไม่เป็นความจริงครับ!!!
– เอ๋ได้รับการผ่าตัดเอาก้อนขนาด 1 cm ออกจากปอดเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมาครับ ก้อนเนื้อถูกส่งเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นมะเร็งครับ
– นับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. เราแทบจะนอนไม่หลับกันเลย ช็อค แต่ก็มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการทั้งเรื่องงาน เรื่องลูก เรื่องการแจ้งข่าวกับคนใกล้ชิด แต่ทุกอย่างสับสนไปหมด หวาดกลัว เศร้า เสียใจ เราสู้ด้วยกันมา 2 คนจริงๆ
– เราทำคลิปนี้ขึ้นมา เพื่อให้สังคมตื่นรู้เรื่องของ pm2.5 ให้ทุกท่านได้ระวังและตรวจสุขภาพบ้าง จะได้ไม่ต้องเจอแบบเรา …แต่คิดว่าการเล่าผ่าน IG หรือ TikTok มันสั้นเกินไปที่จะเล่าเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ได้ครอบคลุมทั้งหมด เราจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวลงใน YouTube ช่องของเราเอง




– เรื่องราวของ pm2.5 เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่อยากให้ทุกคนหันมาสนใจสุขภาพของตนเอง เพราะอาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้เราเป็นมะเร็งปอดได้ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
– เราไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพราะเอ๋ต้องผ่าตัด ต้องพักฟื้น และยังเจ็บแผล ที่สำคัญสภาพจิตใจของเราทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะเล่าและตอบคำถามมากมาย ความรู้สึกและจิตใจของเอ๋เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ
– ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. เอ๋ก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน สภาพจิตใจดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
– ตอนนี้เอ๋ยังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ด้วยจิตใจที่ยังเป็นคนป่วยอยู่นะครับ ในวันที่ 14 มิ.ย. ก็จะต้องไปสแกนทั้งตัว เพื่อดูให้แน่ใจว่ามีอะไรผิดปกติอีกหรือเปล่า ครอบครัวเรายังต้องอยู่กับสิ่งนี้อีก 5 ปีนะครับ
– ผมเอ๋และลูกๆ ก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป และหวังใจว่าคลิปวีดีโอนั้นจะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่านไปตรวจสุขภาพหรืออย่างน้อยไปตรวจปอดดูบ้างนะครับ ว่าอยู่ในสภาพที่ดีขนาดไหน
– ย้ำนะครับ!! pm2.5 เป็นเรื่องยุคใหม่ที่ต้องให้ความสำคัญมากๆ จริงๆ นะครับ
– ทุกท่านจะได้ไม่ต้องมาเจอแบบเรา
– กราบขอบพระคุณมากครับ”