ตำรวจโดดลงคลองน้ำ ช่วยคนขับรถตกคลอง ผู้บาดเจ็บ 3  เสียชีวิตแล้ว 1

19 พ.ค. 2568 เวลา 18:49 น.

เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ต. ไชยวัฒน์ เทียมเมฆา สารวัตรสอบสวนสภ. บ้านแพ้ว ได้รับแจ้งมีรถยนต์ตกคลองบริเวณสี่แยกประตูแดง ถนนบ้านแพ้ว – ยกกระบัตร  หมู่ที่ 7 ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร  มีผุ้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้าโคโรล่า คอส หมายเลขทะเบียน  6 ขจ 590 กรุงเทพมหานคร ลักษณะพลิกตะแคงอยู่ในน้ำ

โดยพบว่ามีคนยังติดอยู่ในรถ 1 ราย และสามรถออกมาได้แล้วจำนวน 3 ราย จากนั้น ร.ต.ท.คำรพ ขันต๊ะ รอง. สวป. สภ.บ้านแพ้ว ร.ต.ต.ทศพล อ่อนนิ่ม รองสวป.สภ.บ้านแพ้ว และดต. มนัส กิมเฮง ผบ.หมู่งานป้องกันฯ สภ.บ้านแพ้ว ได้กระโดดลงไปช่วยผู้บาดเจ็บที่อยู่ภายในรถโดยมีพลเมืองดีที่ผ่านมาลงไปช่วยกันกว่า 15 คน โดยใช้เวลาไม่ถึง5 นาที ก็สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ติดอยู่ในรถออกมาได้ในอาการหมดสติโดยมีทีมแพทย์จาก รพ.สต. ตำบลหลักสามให้การช่วยเหลือทำการ CPR ผู้บาดเจ็บก่อนจะได้ส่งมอบให้รถกู้ชีพขั้นสูงของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) อย่างเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 3 ราย จากอาการสำลักน้ำเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)เช่นกัน และเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บรายที่อาการสาหัสได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)

ทราบชื่อคือนายประศาสน์ จิระพัฒน์สกุล อายุ 86ปีและจากการสอบถามร.ต.ต. ทศพล อ่อนนิ่ม รองสวป.สภ.บ้านแพ้ว ทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองได้ออกตรวจอยู่ในเขตรับผิดชอบตามปกติ และอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุพอดีจึงรีบมาตรวจสอบและจากการสอบถามในที่เกิดเหตุทราบว่ายังมรคนติดอยู่ในรถจึงได้กระโดดลงไปทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรเผื่อเร่งช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถอกมาให้ได้ก่อนเพราะทุกชีวิตมีค่าเสมอ นอกจากนี้ยังมีพลเมืองดีอีกกว่า 10 คนที่ได้ให้การช่วยเหลือในกรณีดังกล่าวจึงสามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมาจากรถได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนสภ.บ้านแพ้วได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานและจะได้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมผู้บาดเจ็บที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและจะได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งก่อนจะได้มอบศพของผู้เสียชีวิตให้ญาติรับไปประกอบประเพณีตามศาสนาต่อไป