ภรรยาของนายอู๋นามสกุล “เจิง” แต่งงานกันมา 3 ปี แต่กลับนอกใจสามีระหว่างเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด โดยมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานชายและตั้งครรภ์ขึ้นมา หลังเรื่องราวถูกเปิดเผย นายอู๋ก็พาภรรยาไปทำแท้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงหย่าร้างกันในที่สุด ต่อมา นายอู๋ได้ยื่นฟ้องอดีตภรรยาและชายที่มีความสัมพันธ์ด้วย ฐานละเมิดสิทธิในชีวิตสมรส พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1,000,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.1 ล้านบาทไทย) โดยศาลแขวงซินจู๋ได้มีคำตัดสินในคดีนี้เมื่อไม่นานมานี้
จากเอกสารคำพิพากษาระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 (พ.ศ. 2565) นายอู๋ให้การว่า ในช่วงเดือนดังกล่าว ภรรยาของเขาเริ่มกลับบ้านดึกบ่อยครั้ง กระทั่งในเดือนถัดมา บิดาของเขาเก็บขยะในบ้านแล้วพบไม้ตรวจครรภ์ที่มีผลเป็นบวก
เมื่อเขาสอบถาม ภรรยาจึงยอมรับว่า ระหว่างเดินทางไปทำงานที่เมืองไถหนาน ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพื่อนร่วมงานชายชื่อ “ชุ่ย” หลังดื่มเหล้าโดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้ตั้งครรภ์ขึ้นมา ท่ามกลางความตกใจและผิดหวัง นายอู๋ถึงกับทำใจไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ยอมไปคลินิกสูตินรีเวชกับภรรยาในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เพื่อร่วมลงชื่อในเอกสารยินยอมทำแท้งในฐานะคู่สมรส
แม้เขาจะยอมให้อภัยในตอนแรก แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นแผลลึกที่ยากจะเยียวยา สุดท้ายทั้งสองจึงตกลงหย่ากันในเดือนเดียวกัน ต่อมา นายอู๋ได้พูดคุยกับนายชุ่ย ซึ่งยอมรับว่าได้ “ทำเรื่องที่ขอโทษนายอู๋” หลังจากดื่มและร้องเพลงกับนางเจิง พร้อมส่งข้อความขอโทษ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายอู๋จึงยื่นฟ้องร้องต่อศาล โดยกล่าวหาทั้งนางเจิงและนายชุ่ยว่าร่วมกันละเมิดสิทธิในชีวิตสมรสของเขา จนทำให้ชีวิตคู่ต้องพังทลาย พร้อมเรียกค่าเสียหายทางจิตใจจำนวน 1,000,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
หลังการพิจารณา ศาลเห็นว่า นายชุ่ยทราบดีว่านางเจิงมีสามีแล้ว แต่ยังคงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกินเลยจากความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานธรรมดา จึงเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ศาลจึงมีคำพิพากษาให้นางเจิงและนายชุ่ยร่วมกันจ่ายค่าเสียหายทางจิตใจแก่ นายอู๋ จำนวน 250,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 280,000 บาท) โดยคดีนี้ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้