จากกรณีดราม่าร้อนแรงส่งท้ายปี เมื่อ โดม-ปกรณ์ ลัม เข้าไปคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำไม่เหมาะสมในภาพของ จินนี่-ยศสุดา บุตรสาวของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการคุกคามทางเพศ และทางทีมงานพรรคไทยสร้างไทยเตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้น ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว โดยแสดงจุดยืนในฐานะแม่อย่างหนักแน่น เพื่อปกป้องลูกสาวและศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงทุกคน

หัวอกแม่ นิ่งเฉยไม่ได้

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุข้อความว่า แม้ในช่วงนี้สภาพร่างกายของตนจะไม่แข็งแรงนัก แต่ในฐานะแม่ ตนขอแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นต่อกรณีการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เพราะเมื่อแม่เจ็บป่วย ลูกก็ช่วยไปทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้พรรคด้วยความตั้งใจดี แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ “ดิฉันต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่แม่ปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาวของดิฉัน และลูกผู้หญิงทุกคน อย่างถึงที่สุด ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ไม่ควรถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กันเช่นนี้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ย้ำไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่คือการย่ำยีศักดิ์ศรี

ในโพสต์ดังกล่าวยังระบุชัดเจนว่า การแสดงความคิดเห็นที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องล้อเล่น แต่เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมทางเพศ และเข้าข่ายการละเมิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ ได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเสียงปกป้อง จินนี่ ยศสุดา และยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อลูกสาวเพียงคนเดียว แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานว่าการคุกคามทางเพศเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในสังคมไทย และผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองก่อไว้ทั้งทางสังคมและกฎหมายอย่างยุติธรรม

ย้อนรอยดราม่าก่อนหน้านี้

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเพจเฟซบุ๊กของ โดม ปกรณ์ ลัม ไปคอมเมนต์ใต้ภาพของจินนี่ จนถูกวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งต่อมา นายภัชริ นิจสิริภัช ผู้สมัคร สส. พรรคไทยสร้างไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่าเตรียมดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ในขณะที่ทางฝั่ง โดม ปกรณ์ ลัม ได้อัดคลิปวิดีโอขอโทษ โดยยอมรับผิดว่าทำไปเพราะความมึนเมาและเข้าใจผิด คิดว่าเป็นภาพหญิงสาวทั่วไปที่สามารถแซวเล่นกับรุ่นพี่เจ้าของเพจได้ โดยไม่ทราบว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงสุดารัตน์

การออกมาเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่าประเด็นการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ไม่ใช่เรื่องเล็ก และแม้คู่กรณีจะออกมาขอโทษแล้ว แต่กระบวนการทางสังคมและทางกฎหมายยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองต่อไป