ผัวเมียอายุน้อย ป่วยมะเร็งตับคู่ หมอชี้นิสัย “ดื่มน้ำ” ที่หลายคนเชื่อว่าดี แท้จริงตายผ่อนส่ง!!

อุทาหรณ์! ผัวเมียหนุ่มสาวเป็น “มะเร็งตับ” พร้อมกัน ทั้งที่อายุยังน้อย ต้นเหตุคือ “น้ำดื่ม” ที่คิดว่าสะอาด แต่ทำผิดวิธีมาตลอด

แพทย์เตือน ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกแบบนี้ เสี่ยงมะเร็งตับถามหา เคสจริงผัวเมียวัย 30 ป่วยพร้อมกัน

เรื่องราวสะเทือนใจที่กลายเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนรักสุขภาพแบบผิดๆ เมื่อคู่สามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่งที่ขยันทำงานเก็บเงินสร้างตัว ต้องมาล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงพร้อมกัน เพื่อนฝูงและญาติพี่น้องต่างตกตะลึง เพราะทั้งคู่ดูแข็งแรงและอายุเพียง 30 กว่าปีเท่านั้น แต่กลับตรวจพบ “มะเร็งตับ” โดยมีสาเหตุมาจากสิ่งใกล้ตัวที่สุด นั่นคือ “วิธีดื่มน้ำ” ของพวกเขานั่นเอง

จุดเริ่มต้น: อาการป่วยที่นำไปสู่ความจริงอันน่าตกใจ

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับ นายจาง และ นางลี่ (นามสมมติ) คู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมาได้เกือบ 5 ปี ทั้งคู่ทำงานหนักในเมืองใหญ่เพื่อเก็บเงินซื้อบ้าน จึงใช้ชีวิตอย่างประหยัดอดออม แต่แล้วนางลี่ก็เริ่มมีอาการเหนื่อยล้าผิดปกติและตัวเหลืองตาเหลือง เมื่อไปพบแพทย์ ผลตรวจระบุชัดเจนว่าเธอเป็น “มะเร็งตับ”

แพทย์สงสัยว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตน่าจะเป็นต้นเหตุ จึงแนะนำให้นายจางผู้เป็นสามีตรวจร่างกายด้วย ผลปรากฏว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางวัน… นายจางเองก็เป็นมะเร็งตับเช่นเดียวกัน

กับดักสุขภาพ: น้ำดื่มราคาถูกและการเก็บรักษาที่ผิดวิธี

เมื่อแพทย์ซักประวัติอย่างละเอียดจนพบสาเหตุ ทั้งคู่ถึงกับปล่อยโฮด้วยความเสียใจ เพราะสิ่งที่ทำร้ายพวกเขาคือนิสัยประหยัดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ด้วยความที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ไม่อยากดื่มน้ำประปาต้มเพราะกลัวไม่สะอาด ทั้งคู่จึงเลือกซื้อ “น้ำดื่มบรรจุขวดราคาถูก” ตามท้องตลาดที่ไม่มีฉลากชัดเจน หรือผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ เพื่อให้ได้ราคาส่งที่ถูกที่สุด พวกเขามักจะซื้อตุนไว้ทีละมากๆ กองไว้ในบ้านข้ามปี

พฤติกรรมเสี่ยงตายของทั้งคู่คือ:

  • ดื่มน้ำจากขวดที่ไม่ได้มาตรฐาน: ขวดพลาสติกเกรดต่ำที่ไม่มี อย. รับรอง
  • เก็บไว้นานเกินไป: ซื้อตุนไว้นานจนพลาสติกเสื่อมสภาพ
  • ดื่มไม่หมดแล้ววางทิ้งไว้: ด้วยความยุ่ง เปิดขวดดื่มแล้ววางทิ้งไว้หลายวัน แล้วกลับมาดื่มต่อ เสียดายของไม่ยอมทิ้ง

แพทย์ชี้ชัด! ทำไมดื่มน้ำแบบนี้ถึงเสี่ยง “มะเร็งตับ”?

แพทย์ผู้รักษาอธิบายว่า โดยปกติน้ำดื่มบรรจุขวดที่มีแบรนด์มาตรฐานนั้นปลอดภัย แต่ความเสี่ยงมรณะมาจาก 2 ปัจจัยหลักที่คนมองข้าม:

1. พลาสติกด้อยคุณภาพปล่อยสารพิษ
ขวดน้ำราคาถูกที่ไม่มีมาตรฐาน หรือขวดที่เก็บไว้นานเกินไป (โดยเฉพาะถ้าโดนความร้อนหรือแสงแดด) พลาสติกจะเริ่มเสื่อมสภาพและปลดปล่อยสารเคมีอันตรายปนเปื้อนลงในน้ำ เช่น พลวง (Antimony) หรือ Bisphenol A (BPA) เมื่อดื่มเข้าไปสะสมนานวันเข้า ตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดสารพิษต้องทำงานหนักเกินขีดจำกัด จนเกิดการอักเสบและกลายเป็นมะเร็งในที่สุด

2. แหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรีย
การเปิดขวดน้ำดื่มแล้วดื่มไม่หมด วางทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืน (หรือหลายวันแบบคู่นี้) ปากขวดจะสัมผัสกับแบคทีเรียในช่องปากและสิ่งแวดล้อม กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดี การดื่มน้ำค้างเก่าซ้ำๆ เท่ากับการเติมเชื้อโรคและสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยตรง

รู้ทันก่อนสาย! คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย

จากกรณีศึกษาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังพบว่าน้ำดื่มบรรจุขวดอาจมี “ไมโครพลาสติก” ปนเปื้อนจำนวนมากหากผลิตไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้:

  • เลือกซื้อน้ำดื่มที่มีฉลาก อย. ชัดเจน และระบุวันที่ผลิต/หมดอายุ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากขวดที่ตากแดด หรือเก็บในที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน
  • “น้ำดื่มที่เปิดขวดแล้ว ควรดื่มให้หมดภายในวันเดียว” หากดื่มไม่หมดและทิ้งไว้นานเกินไป ควรเททิ้งหรือนำไปรดน้ำต้นไม้แทน
  • อย่าเสียดายเงินเล็กน้อย เพื่อแลกกับสุขภาพตับที่มีค่ามหาศาล