ที่หมู่บ้านตงเต่า เมืองไป๋ซา อำเภอยางซิน มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน มีบ้านหลังเล็กที่โดดเด่นท่ามกลางต้นไม้อันเขียวขจี ซึ่งดึงดูดความสนใจอย่างมาก บ้านหลังนี้เป็นที่พักของคู่สามีภรรยาที่ตัดสินใจละทิ้งงานที่มีรายได้สูงในเซี่ยงไฮ้เพื่อกลับบ้านเกิด

นอกจากนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการพัฒนางานฝีมือย้อมผ้าจากพืชธรรมชาติ มุ่งหวังสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และส่งเสริมการพัฒนาชนบทให้ก้าวหน้า

ละทิ้งงานที่มีรายได้สูงเพื่อกลับบ้านสร้างบ้าน

ในปี 2017 ลาเตา (เกิดปี 1991) และหลี่เจี๋ย (เกิดปี 1992) สองบัณฑิตจากสถาบันศิลปะหูเป่ย์ ตัดสินใจลาออกจากงานที่มั่นคงในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 40,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2 แสนบาท) เพื่อกลับไปบ้านเกิดของพวกเขา

ชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายทำให้ทั้งคู่รู้สึกเบื่อหน่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ว่างหลังจากแต่งงาน ลาเตาได้พาแฟนสาวกลับไปเยี่ยมบ้านคุณยายที่หมู่บ้านตงเต่า ซึ่งเป็นที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่จนถึงอายุ 9 ปี ภาพของบ้านเก่าในหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่เชิงเขาฝู่จื่อทำให้หลี่เจี๋ยเกิดไอเดียขึ้นมา “เรามาสร้างบ้านใหม่ของเราและย้ายกลับมาที่นี่กันเถอะ!”

เมื่อได้ยินข่าวนี้ พ่อแม่ของทั้งคู่รู้สึกกังวลใจอย่างมาก แม่ของลาเตาเป็นพยาบาลที่เกษียณแล้ว ส่วนพ่อของเขาเป็นคนงานก่อสร้าง พวกเขาได้ซื้อบ้านในตัวเมืองและย้ายออกจากหมู่บ้านมานานหลายปีแล้ว เมื่อได้ยินว่าลูกชายและลูกสะใภ้ในอนาคตต้องการกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด พวกเขาก็ไม่อาจเข้าใจได้เลย

แม้จะถูกคัดค้าน แต่ทั้งคู่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในชนบท แผนการเริ่มต้นของพวกเขาคือการสร้างบ้านในฝัน จากนั้นเปิดบริการโฮมสเตย์และจัดกิจกรรมเชิงศิลปะ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

ด้วยเงินเก็บกว่า 700,000 หยวน (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) ทั้งคู่เริ่มต้นสร้างบ้านในฝันที่มีบรรยากาศเหมือนเทพนิยาย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดังของญี่ปุ่น “Kiki’s Delivery Service” (แม่มดน้อยกิกิ)

หลังคาบ้านถูกออกแบบให้มีด้านหนึ่งโค้ง และอีกด้านเป็นหลังคาลาดเอียง ทำให้ดูเหมือนปราสาทเล็ก ๆ เมื่อเปิดหน้าต่างด้านหลังจะสามารถมองออกไปยังหุบเขาไกลลิบตา ส่วนหน้าต่างด้านหน้าจะเผยให้เห็นสวนดอกไม้ที่สวยงาม มีหลายจุดที่ช่างก่อสร้างท้องถิ่นไม่สามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ ทั้งคู่จึงลงมือทำเองเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ฝันไว้

แม้จะเผชิญความยากลำบากในการออกแบบและก่อสร้าง คู่รักคู่นี้ก็ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนของพวกเขา หลังจากผ่านไป 3 ปี บ้านในฝันของพวกเขาก็สร้างเสร็จในเดือนพฤษภาคม ปี 2019 โดยสร้างความประทับใจให้กับคนหนุ่มสาวในหมู่บ้าน และได้รับฉายาว่า “บ้านแห่งเทพนิยาย”

ร่วมมือกันเริ่มต้นธุรกิจในบ้านเกิด

ไม่เพียงแค่สร้างบ้าน คู่สามีภรรยาคู่นี้ยังมีความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า “ทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นที่ที่น่าอยู่และร่ำรวยขึ้น”

พวกเขาเดินทางไปยังมณฑลกุ้ยโจวเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบและวางแผนพัฒนาชนบท ที่นั่นทั้งสองได้พบกับช่างฝีมือท้องถิ่นและเรียนรู้เทคนิคการย้อมผ้าด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

เมื่อกลับถึงบ้านเกิด พวกเขาจึงเริ่มเปิดโรงงานย้อมผ้าขนาดเล็ก โดยใช้วัตถุดิบจากป่ารอบ ๆ นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผ้าเช็ดหน้า, ผ้าห่ม, และกระเป๋าผ้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมออกมา

“เราหวังที่จะรักษางานฝีมือดั้งเดิม และช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านผ่านงานนี้” ลาเตากล่าว ปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากโรงงานย้อมผ้าของคู่รักนี้ถูกจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และส่งไปยังเมืองใหญ่ต่างๆ ในจีน เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว และแม้กระทั่งส่งออกไปยังประเทศเยอรมนี

ไม่เพียงแค่โรงงานย้อมผ้า คู่รักคู่นี้ยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น และทีมงานในหมู่บ้านในการวางแผนพัฒนาหมู่บ้านตงเต่าอย่างครบวงจร “เราต้องการช่วยกันทำให้ทั้งหมู่บ้านกลายเป็น “หมู่บ้านเทพนิยาย” ที่มีความงามจากธรรมชาติและงานฝีมือดั้งเดิม” หลี่เจี๋ย กล่าว

นอกจากนี้ พวกเขายังมีแผนขยายการผลิตเพื่อสร้างงานให้กับแรงงานในท้องถิ่น เกษตรกรที่ว่างงานสามารถเข้าร่วมเก็บวัตถุดิบหรือทำขั้นตอนการย้อมผ้า ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวบ้าน

อนาคตที่เต็มไปด้วยความหวัง

ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่น ลาเตาและหลี่เจี๋ยได้พิสูจน์ว่า การกลับบ้านเกิดไม่เพียงเป็นการค้นหาตัวตนที่แท้จริง แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการอนุรักษ์วัฒนธรรม

โครงการของคู่รักคู่นี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจจากสื่อมวลชน ยังได้รับการสนับสนุนจากชุมชนอย่างมาก พวกเขากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครตามความต้องการของลูกค้า และไม่หยุดยั้งในการยกระดับคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำให้การย้อมผ้าจากพืชธรรมชาติเก่าแก่เข้ากับโลกสมัยใหม่

“เรามั่นใจว่า หากยังคงรักษาความหลงใหลและจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ หมู่บ้านตงเต่าจะไม่เพียงเป็น “หมู่บ้านเทพนิยาย” แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูชนบทในยุคปัจจุบัน” สามีภรรยาคู่นี้ กล่าว