เพราะเหตุนี้ เมื่อได้รับโอกาสนี้มา เจ้าตัวจึงไม่เคยคิดที่จะหยุดพัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความเต็มที่กับอาชีพที่เขาได้เลือกแล้ว เพราะความตั้งใจและมุ่งมั่นนี้ จึงทำให้ภณถูกจับตามองว่าเขาจะสามารถพาตัวเองไปไกลได้แค่ไหนในเส้นทางของการเป็นพระเอกช่อง 3
ถูกมองเป็นเด็กเส้น ให้แม่เป็นเจ๊ดันเข้าวงการบันเทิง
“ผมเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ครับ ผมไม่มีเลขอะไรติดตัวมาเลย ก็ค่อยๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อย คุณแม่แค่คอยซัพพอร์ตอย่างเดียว ไม่เคยเป็นเจ๊ดันเลย อยู่ข้างหลังอย่างเดียว” พระเอกหนุ่มอธิบายเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เล่าต่อว่า
“ตอนเด็กๆ ผมไม่เคยคิดอยากจะเป็นนักแสดงเลย รู้แค่ว่าแม่เคยเล่นหนัง จนผมได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง ก็ยังงงว่าตัวเองเข้ามาได้ยังไง (ยิ้ม) แต่ผมก็ทำงานมาเรื่อยๆ จนเรียนจบ
ส่วนคุณแม่ดีใจที่ผมได้ทำงานที่ผมรักและเลือกเอง แต่แม่ก็คอยเตือนผมเสมอว่า ยิ่งมีคนรักเรามาก เราก็ต้องทำตัวดีๆ ทำตัวเหมือนเดิม อย่าเปลี่ยนไป
ซึ่งชีวิตส่วนตัวผมก็ไม่ได้มีอะไรมาก ไปทำงาน ไปฟิตเนส กลับบ้าน เจอเพื่อนบ้างนานๆ ที ซึ่งชีวิตผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่จริงๆ”
กว่าจะได้เป็นนักแสดงช่อง 3
สำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามชีวิตของพระเอกหนุ่มคนนี้ คงจะรู้กันดีว่ากว่าภณจะมายืนตรงจุดนี้ได้ เขาก็ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อย จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 9 ปีแล้วที่ภณเดินอยู่ในวงการบันเทิง เริ่มจากการประกวดจนได้มาเป็นเด็กในช่อง 3 แคสต์งานละครมาหลายเรื่อง และเมื่อวันนึงความพยายามของภณก็เป็นผล เมื่อช่องเรียกเซ็นสัญญา ซึ่งพระเอกหนุ่มย้อนความรู้สึกในตอนนั้นให้ฟังว่า
“อายุการทำงานของผม ถ้าเซ็นกับช่องก็ 5 ปีกว่าแล้ว แต่ถ้าเริ่มต้นเลยประกวดก็ตั้งแต่ปี 55 ครับ ตอนนั้นอายุสัก 17 ปี ผมก็สะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ
และตอนที่จะตัดสินใจเซ็นสัญญากับทางช่อง 3 ผมตัดสินใจไม่นานเลย เพราะผมลองมาแล้ว 2 รอบ (หัวเราะ) ผมไปแคสต์มาแต่ไม่ได้ จนรอบที่ 3 ผมถึงได้ (ยิ้ม)
คือผมอยากลองเปิดประสบการณ์ตัวเอง ก็ลองไปแคสต์งานดู ถ้าไม่ได้ก็ไปใหม่ ดูซิจะต้องแคสต์ไปกี่รอบถึงจะได้งาน ขอลองไปเรื่อยๆ และเวลาผมไปแคสต์งานมักจะไม่ได้ด้วย (หัวเราะ) และเมื่อโอกาสมาถึง ผมก็ไม่ลังเลที่จะเซ็นสัญญา”





