สาววัย 25 สู้มะเร็งตับจนหาย! เปิด 5 อาหารที่ควรเลี่ยงเด็ดขาด!

หากคุณต้องการอยู่ห่างจากมะเร็งตับ คุณควรอยู่ห่างจากอาหารเหล่านี้

เมื่ออายุ 25 ปี ขณะที่หลายคนยังคงใช้ชีวิตอย่างไม่กังวล คุณทราน (อายุ 25 ปี จากจีน) ต้องเผชิญกับโรคมะเร็งตับอันร้ายแรง หลังจากการรักษาและการฟื้นตัวอย่างน่าอัศจรรย์ เธอยอมรับว่า “การเปลี่ยนแปลงอาหารคือสิ่งที่ช่วยชีวิตฉันไว้” คำแนะนำของแพทย์ไม่เพียงแต่สำหรับคนป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนเตือนใจสำหรับทุกคนที่กำลังละเลยสุขภาพตับของตัวเองอีกด้วย

5 อาหารที่ทำให้ตับ “ร้องขอความช่วยเหลือ”

– อาหารทอดมัน: หมูสามชั้น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ ฯลฯ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ตับทำงานหนักเกินไป ไขมันที่สะสมเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับโรคตับอักเสบ และภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งตับได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคนที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่ควรรับประทานอาหารทอดเกินสัปดาห์ละสองครั้ง

– อาหารที่มีเชื้อรา: ถั่วลิสง ข้าวโพด ข้าว หรือถั่วชนิดอื่นๆ ที่มีเชื้อราประกอบด้วยอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราที่ก่อให้เกิดมะเร็งตับอย่างรุนแรง สารพิษนี้ไม่สามารถทำลายได้ด้วยการต้มหรือทอด เมื่อตรวจพบเชื้อราแล้วต้องทิ้งอาหารทั้งหมด ห้ามตัดทิ้งโดยเด็ดขาดและรับประทานต่อไป

– แอลกอฮอล์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ตับเปรียบเสมือน “โรงงานแปรรูปแอลกอฮอล์” ของร่างกาย การดื่มมากเกินไปจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ตับอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ ภาวะตับแข็งและมะเร็งตับในระยะยาวสำหรับผู้ที่เป็นโรคตับห้ามดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาดคนปกติควรจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยกว่า25 กรัมต่อวัน (เทียบเท่าเบียร์ 1 กระป๋อง หรือไวน์ 1 แก้วเล็ก)

– อาหารดอง หมักดอง รมควัน: ปลาเค็ม เบคอน ผักดอง… มี ไนไตรต์ สูง- เมื่อเข้าสู่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็ง ไม่ควรรับประทานเกินเดือนละครั้งและควรรับประทานร่วมกับผักใบเขียวเพื่อลดผลกระทบที่เป็นอันตราย

– ขนมหวาน น้ำตาลสูง: เค้ก ชานม ลูกอม… ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับในระยะยาวอาจทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2ควรค่อยๆเปลี่ยนขนมหวานเป็นผลไม้สดซึ่งจะช่วยทำความสะอาดตับและรักษารูปร่าง

3 กฎทองบำรุงตับให้แข็งแรง

– รับประทานโปรตีนให้เพียงพอและเหมาะสม: โปรตีนจากไข่ ปลา เต้าหู้ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมันช่วยให้ตับฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหาย ควรรับประทานไข่ 1 ฟอง + เนื้อหรือปลา 100 กรัมที่ปรุงอย่างง่ายๆ (นึ่งหรือต้ม) ทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงไขมัน

– รับประทานผักและผลไม้หลากสีสัน: ยิ่งมีสีสันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อตับมากขึ้นเท่านั้น พยายามรับประทานผักและผลไม้อย่างน้อย 5 ชนิดทุกวันโดยผักสีเข้ม เช่น บรอกโคลี แครอท และบลูเบอร์รี่คิดเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับต่อวัน

– ดื่มน้ำให้เพียงพอและเหมาะสม: เพื่อตับที่แข็งแรงน้ำต้องเพียงพอดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรแบ่งดื่มหลายๆ ครั้ง ทุกเช้า น้ำอุ่นหนึ่งแก้วจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ช่วยขจัดสารพิษ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้บรรจุขวดแทนน้ำเปล่า

นิสัยเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้ตับมีชีวิตที่ “ผ่อนคลาย” มากขึ้น

– ระมัดระวังในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ: หลายคนคิดว่าการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเสริมนั้นดี แต่การได้รับวิตามินเอ ธาตุเหล็ก สังกะสี… มากเกินไปจะทำให้ตับทำงานหนักเกินไป อาหารเสริมทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในระยะยาว

– เลือกภาชนะที่ปลอดภัยสำหรับรับประทานอาหาร: อย่าเก็บอาหารร้อนไว้ในภาชนะพลาสติกคุณภาพต่ำ เนื่องจากสารพลาสติไซเซอร์ (พทาเลต)อาจซึมเข้าไปในอาหารจนทำให้ตับเสียหายได้ ควรใช้ภาชนะที่ทำจากแก้วหรือเซรามิก

– การนอนหลับให้ตรงเวลา เป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดในการบำรุงตับ: ช่วงเวลา23.00 น. ถึง 03.00 น.ถือเป็น “ช่วงเวลาทอง” ที่ตับจะฟื้นฟูและกรองสารพิษ การนอนดึกเป็นประจำทำให้การทำงานของตับเสื่อมเร็วกว่าการดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท

หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน เด็กสาวก็ตระหนักว่า สุขภาพที่ดีไม่ได้มาจากยาราคาแพง แต่มาจากการรับประทานอาหารทุกมื้อและการนอนหลับพักผ่อนทุกวันคำแนะนำของแพทย์ยังเตือนใจเราทุกคนว่า “อย่ารอให้ตับของคุณร้องขอความช่วยเหลือแล้วค่อยเรียนรู้ที่จะรักมัน”