ผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 มิ.ย.2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผยถึงกรณีที่มีผู้นำคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาและประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เผยแพร่ออกมาทางโซเชียลมีเดีย จนเป็นที่วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

ผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซนผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซน

ผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซนผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซน

ว่า สำหรับเรื่องนี้ ตนเองได้สั่งการไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบไปตามอำนาจหน้าที่ ว่ากรณีดังกล่าวที่ปรากฏมีการเผยแพร่คลิปเสียงโดยเป็นการแอบอัด จะเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานใดหรือไม่ เป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรหรือไม่อย่างไร มีผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะกระทำผิดกฎหมายไทยหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ในเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดมาร้องทุกข์กล่าวโทษแต่อย่างใด

ผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซนผบช.ไซเบอร์ สั่งสอบที่มาคลิปเสียง นายกแพทองธาร-สมเด็จฮุน เซน

โดยในส่วนนี้ตามอำนาจหน้าที่ทางตำรวจไซเบอร์ได้มีการตรวจสอบทางโลกออนไลน์อยู่แล้วก็ทำไปตามอำนาจหน้าที่หากพบเป็นการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีทั้งความผิดต่อรัฐหรือความผิดต่อแผ่นดิน กับความผิดต่อส่วนตัว ซึ่งความผิดต่อส่วนตัวหากผู้เสียหายมีความประสงค์จะร้องทุกข์กล่าวโทษก็สามารถดำเนินการได้

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับในกรณีดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดใดบ้างนั้นต้องมาดูในรายละเอียดซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูในรายละเอียดว่าจะเข้าข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฐานใด เป็นความผิดต่อรัฐหรือความผิดต่อส่วนตัว หรือจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่อย่างไร ก็ต้องมาดูและพิจารณาตามข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบถึงเจตนามูลเหตุจูงใจของผู้โพสต์ ในส่วนนี้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย